top of page
PHC 2.png

เจาะลึกเบื้องหลัง "Payap Health Care" ผู้นำโมเดลปั้นคนคุณภาพแห่งภาคเหนือ: เมื่อ "การสร้าง" สำคัญกว่า "การส่ง" – บทพิสูจน์มาตรฐานการดูแลผู้สูงอายุที่เหนือกว่าคำว่าธุรกิจ

เจาะลึกเบื้องหลัง "Payap Health Care" ผู้นำโมเดลปั้นคนคุณภาพแห่งภาคเหนือ: เมื่อ "การสร้าง" สำคัญกว่า "การส่ง" – บทพิสูจน์มาตรฐานการดูแลผู้สูงอายุที่เหนือกว่าคำว่าธุรกิจ
เจาะลึกเบื้องหลัง "Payap Health Care" ผู้นำโมเดลปั้นคนคุณภาพแห่งภาคเหนือ: เมื่อ "การสร้าง" สำคัญกว่า "การส่ง" – บทพิสูจน์มาตรฐานการดูแลผู้สูงอายุที่เหนือกว่าคำว่าธุรกิจ

ท่ามกลางคลื่นสึนามิแห่ง "สังคมสูงวัยระดับสุดยอด" (Super-Aged Society) ที่กำลังซัดสาดประเทศไทย โดยเฉพาะในภาคเหนือที่เป็นหมุดหมายอันดับหนึ่งของการเกษียณอายุ ธุรกิจหนึ่งที่เติบโตขึ้นราวกับดอกเห็ดหน้าฝนคือ "ธุรกิจจัดส่งผู้ดูแล (Home Care Agency)"


บนหน้ากระดาษโฆษณาและสื่อออนไลน์ เรามักเห็นคำโฆษณาชวนเชื่อมากมาย: "ส่งด่วน ส่งไว ราคาถูก หาคนได้ภายใน 24 ชั่วโมง"... แต่ในความเป็นจริงที่หลายครอบครัวต้องเผชิญ กลับกลายเป็นฝันร้ายที่ซ่อนอยู่ภายใต้คำสัญญาเหล่านั้น พนักงานที่ส่งมาขาดทักษะ, ไม่รู้วิธีพลิกตัวผู้ป่วยจนเกิดแผลกดทับ, ขาดจิตวิทยาในการพูดคุยกับคนแก่, หรือเลวร้ายที่สุดคือการทิ้งงานกลางคัน ปล่อยให้ผู้สูงอายุต้องเผชิญชะตากรรมเพียงลำพัง


คำถามสำคัญที่เกิดขึ้นในใจผู้บริโภคยุคใหม่จึงไม่ใช่แค่ "หาคนได้ไหม?" อีกต่อไป แต่คือ "คนคนนั้น...ถูกสร้างมาอย่างไร?"


ในขณะที่ตลาดส่วนใหญ่มุ่งเน้นการเป็น "พ่อค้าคนกลาง" (Middleman) ที่ทำหน้าที่เพียงหยิบจับคนมาส่งให้ลูกค้าแล้วกินส่วนต่าง ล่าสุดที่จังหวัดเชียงใหม่ ได้เกิดความเคลื่อนไหวที่น่าจับตามอง เมื่อ "Payap Health Care" (พายัพ เฮลธ์ แคร์) ประกาศจุดยืนที่ท้าทายกระแสหลัก ด้วยปรัชญาการทำงานที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง:


"เราไม่ใช่บริษัทจัดส่งพนักงาน แต่เราคือสถาบันสร้างนักดูแลมืออาชีพ... เพราะบุคลากรที่ดี ไม่ได้เกิดจากการ 'ส่งงาน' แต่เกิดจากการ 'สร้าง' อย่างถูกวิธี"

บทความเจาะลึกฉบับนี้ จะพาคุณผู้อ่านไปเปิดประตูรั้วของ Payap Health Care เพื่อสำรวจกระบวนการ "เจียระไนคน" ที่เข้มข้นที่สุดในภาคเหนือ และหาคำตอบว่าทำไมโมเดลนี้ ถึงเป็นทางรอดเดียวที่จะการันตีคุณภาพชีวิตของคนที่คุณรักได้อย่างแท้จริง

PART 1: รื้อระบบเก่า สร้างระบบใหม่ – ทำไมโมเดล "จัดส่งตามสั่ง" ถึงใช้ไม่ได้ผลอีกต่อไป?

รื้อระบบเก่า สร้างระบบใหม่ – ทำไมโมเดล "จัดส่งตามสั่ง" ถึงใช้ไม่ได้ผลอีกต่อไป?
รื้อระบบเก่า สร้างระบบใหม่ – ทำไมโมเดล "จัดส่งตามสั่ง" ถึงใช้ไม่ได้ผลอีกต่อไป?

1.1 ความล้มเหลวของระบบ "จับแพะชนแกะ"

ในอดีต โมเดลธุรกิจศูนย์ดูแลผู้สูงอายุมักทำงานแบบง่ายๆ คือ รับสมัครคนเข้ามา (โดยแทบไม่มีการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมหรือทักษะ) แล้วส่งต่อไปยังบ้านลูกค้าทันทีเมื่อมีความต้องการ ผลลัพธ์คือ "ความเสี่ยง" ตกอยู่ที่ผู้บริโภค 100%

  • ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย: ผู้ดูแลที่ไม่ผ่านการอบรมอาจทำผู้ป่วยกระดูกหักจากการอุ้มผิดท่า

  • ความเสี่ยงด้านสุขภาพ: การดูดเสมหะ (Suction) หรือการให้อาหารทางสายยาง (Tube Feeding) ที่ไม่ถูกสุขลักษณะ นำไปสู่การติดเชื้อในกระแสเลือด

  • ความเสี่ยงด้านจิตใจ: ผู้ดูแลที่ไม่มีความเข้าใจธรรมชาติผู้สูงวัย อาจใช้อารมณ์หรือคำพูดที่ทำร้ายจิตใจ จนผู้ป่วยเกิดภาวะซึมเศร้า


1.2 วิสัยทัศน์ของ Payap Health Care: "From Recruitment to Development"

Payap Health Care มองเห็น Pain Point นี้อย่างทะลุปรุโปร่ง จึงปฏิเสธที่จะเล่นเกมราคาหรือเกมความเร็ว แต่เลือกที่จะเล่น "เกมคุณภาพ" โดยเปลี่ยนนิยามตัวเองจาก "Agency" เป็น "Human Capital Developer in Healthcare" (ผู้พัฒนาทุนมนุษย์ด้านสุขภาพ)


หัวใจสำคัญไม่ได้อยู่ที่ว่าเรามีคนกี่คนในมือ แต่อยู่ที่ว่าคนแต่ละคนในมือนั้น "ผ่านอะไรมาบ้าง" ก่อนที่จะได้รับอนุญาตให้ก้าวเท้าเข้าสู่บ้านของลูกค้า นี่คือที่มาของ Payap Academy

PART 2: Payap Academy – เบ้าหลอมมนุษย์คุณภาพ (The Crucible of Caregivers)

Payap Academy – เบ้าหลอมมนุษย์คุณภาพ (The Crucible of Caregivers)
Payap Academy – เบ้าหลอมมนุษย์คุณภาพ (The Crucible of Caregivers)

หากจะเปรียบเทียบให้เห็นภาพ Payap Academy ก็เปรียบเสมือน "โรงเรียนเตรียมทหาร" ของวงการผู้ดูแลผู้สูงอายุ ที่นี่ไม่ใช่แค่ที่สอนหนังสือ แต่คือสถานที่ขัดเกลาทั้งร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ

2.1 ระบบคัดกรองที่เข้มงวดยิ่งกว่าการสอบเข้า (Screening Process)

ก่อนที่จะเริ่มเรียน ผู้สมัครทุกคนต้องผ่านด่านอรหันต์ของการคัดกรอง:

  • การตรวจสอบประวัติอาชญากรรม: ความปลอดภัยของลูกค้าคือสิ่งสูงสุด

  • การตรวจสุขภาพจิตและทัศนคติ (Attitude Test): คนเก่งฝึกได้ แต่คนดีต้องมีพื้นฐาน เรามองหาคนที่มี "Service Mind DNA" หรือยีนส์แห่งการให้

  • การสัมภาษณ์เชิงลึก: เพื่อดูวุฒิภาวะทางอารมณ์ (EQ) ในการรับมือกับแรงกดดัน

2.2 หลักสูตรพื้นฐาน 6 สัปดาห์: ความรู้ที่แน่นปึ้ก (Intensive 6-Week Foundation)

ในขณะที่ที่อื่นอาจอบรม 3 วันแล้วส่งงาน Payap Academy ใช้เวลาถึง 6 สัปดาห์ (1.5 เดือน) ในการปูพื้นฐาน นี่คือความแตกต่างมหาศาล

  • สัปดาห์ที่ 1-2 กายวิภาคและสรีรวิทยา: เข้าใจร่างกายมนุษย์ ระบบขับถ่าย ระบบทางเดินหายใจ เพื่อให้รู้สาเหตุของอาการผิดปกติต่างๆ

  • สัปดาห์ที่ 3-4 ทักษะทางการพยาบาล (Nursing Skills): การวัดสัญญาณชีพ, การพลิกตัว, การทำแผล, การดูแลสายสวนปัสสาวะ, และการปฐมพยาบาลเบื้องต้น (CPR)

  • สัปดาห์ที่ 5 โภชนาการและสุขอนามัย: การเตรียมอาหารปั่นผสม (Blenderized Diet), การคำนวณแคลอรี่, และการรักษาความสะอาด

  • สัปดาห์ที่ 6 การฝึกปฏิบัติจริง: จำลองสถานการณ์เสมือนจริง (Simulation) กับหุ่นและผู้ป่วยจำลอง

2.3 Professional Refresh Program: ความรู้ไม่มีวันหมดอายุ

โลกการแพทย์เปลี่ยนไปทุกวัน ทักษะก็เช่นกัน Payap Health Care จึงมีระบบ "Re-skill & Up-skill"

  • สำหรับผู้มีประสบการณ์ที่เข้ามาใหม่ ต้องเข้าคอร์สปรับพื้นฐานให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน

  • พนักงานปัจจุบันต้องกลับมาอบรมซ้ำทุก 6 เดือน เพื่อทบทวนเทคนิคใหม่ๆ และแก้ไขจุดบกพร่องที่พบจากการทำงานจริง

2.4 Ethics & Safety Protocol: จรรยาบรรณคือเกราะป้องกัน

สิ่งที่สอนยากที่สุดคือ "จริยธรรม" หลักสูตรนี้เน้นย้ำเรื่อง:

  • Patient Privacy: การรักษาความลับของผู้ป่วย ไม่ถ่ายรูปหรือโพสต์ลงโซเชียลมีเดีย

  • Safety First: โปรโตคอลความปลอดภัยในบ้าน การป้องกันไฟไหม้ และการจัดการเมื่อเกิดอุบัติเหตุ

2.5 ระบบ Badges และการประเมินผล: การันตีด้วยคุณภาพ

ไม่ใช่แค่เรียนจบแล้วจบกัน แต่มีการสอบภาคปฏิบัติที่เข้มข้น ผู้ที่ผ่านจะได้รับ "Badge" หรือตราสัญลักษณ์รับรองความสามารถเฉพาะด้าน เช่น Badge การดูดเสมหะ, Badge การดูแลผู้ป่วยอัลไซเมอร์, Badge กายภาพบำบัดเบื้องต้น ทำให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่า คนที่ส่งไปมีความเชี่ยวชาญตรงกับโรคที่เป็น

PART 3: Humanized Care – สร้างด้วยหัวใจ...ให้มากกว่าทักษะ (The Heart of Care)

ทักษะทำให้ผู้ป่วย "รอด" แต่หัวใจทำให้ผู้ป่วย "สุข" นี่คือปรัชญา Humanized Care (การดูแลด้วยหัวใจความเป็นมนุษย์) ที่ Payap Health Care ได้รับการถ่ายทอด DNA มาจาก คณะพยาบาลศาสตร์แมคคอร์มิค โดยตรง

3.1 ความละเอียดอ่อนที่ AI ทำแทนไม่ได้

ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาท หุ่นยนต์อาจช่วยยกของได้ แต่หุ่นยนต์ไม่สามารถ:

  • จับมือให้กำลังใจ ในวันที่ผู้ป่วยท้อแท้

  • สังเกตแววตา ที่บ่งบอกความเจ็บปวดที่พูดไม่ออก

  • รับฟังเรื่องเล่าความหลัง ของผู้สูงอายุด้วยความสนใจจริงใจ

3.2 หลักสูตรจิตวิทยาผู้สูงวัยและการสื่อสาร

Payap Academy ให้ความสำคัญมากกับการสอนเรื่อง "Empathy" (ความเข้าอกเข้าใจ)

  • การสื่อสารอย่างอ่อนโยน: สอนเทคนิคการพูดกับผู้ป่วยสมองเสื่อม การใช้โทนเสียง และภาษาหน้าตา (Non-verbal communication)

  • การจัดการอารมณ์: ผู้ดูแลต้องเป็น "ถังขยะอารมณ์" ที่แข็งแกร่ง รองรับความหงุดหงิดของผู้ป่วยได้โดยไม่ตอบโต้ และรู้วิธีเปลี่ยนบรรยากาศตึงเครียดให้ผ่อนคลาย


"ผู้สูงอายุไม่ได้ต้องการแค่คนช่วยพยุงเดิน แต่ต้องการเพื่อนคู่คิด ต้องการคนที่ทำให้เขารู้สึกว่าเขายังมีคุณค่าและศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์หลงเหลืออยู่"

PART 4: Real Impact – เมื่อ "คนคุณภาพ" สร้าง "ชีวิตคุณภาพ"

Real Impact – เมื่อ "คนคุณภาพ" สร้าง "ชีวิตคุณภาพ"
Real Impact – เมื่อ "คนคุณภาพ" สร้าง "ชีวิตคุณภาพ"

คำว่า "คุณภาพ" วัดผลได้หรือไม่? ที่ Payap Health Care เราวัดผลความสำเร็จจาก Better Quality of Life Indicators ของผู้ป่วย

4.1 ลดความเสี่ยงทางกาย (Physical Safety Impact)

เมื่อบุคลากรผ่านการฝึกฝนมาอย่างดี สถิติอุบัติเหตุจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ:

  • ลดความเสี่ยงการหกล้ม (Fall Prevention): ผู้ดูแลรู้วิธีประเมินความเสี่ยงในบ้าน จัดสภาพแวดล้อม และรู้วิธีประคองที่ถูกต้อง

  • ลดแผลกดทับ (Bedsores Reduction): ด้วยวินัยในการพลิกตัวทุก 2 ชั่วโมง และเทคนิคการนวดกระตุ้นไหลเวียนเลือด แผลกดทับที่เคยเป็นฝันร้ายของผู้ป่วยติดเตียงจะลดลงหรือหายไป

  • ลดอัตราการกลับเข้าโรงพยาบาล (Re-admission Rate): การสังเกตอาการที่แม่นยำ (เช่น สีของปัสสาวะ, ความข้นของเสมหะ) ทำให้รู้สัญญาณเตือนล่วงหน้าและรักษาได้ทันท่วงที ก่อนที่อาการจะทรุดหนัก

4.2 ฟื้นฟูสภาพจิตใจ (Mental Health Impact)

  • ลดภาวะซึมเศร้า: การมีเพื่อนคุยที่เข้าใจ และกิจกรรมบำบัดเล็กๆ น้อยๆ ระหว่างวัน ช่วยกระตุ้นสมองและจิตใจ

  • เพิ่มความร่วมมือในการรักษา: เมื่อผู้ป่วย "ไว้ใจ" และ "รัก" ผู้ดูแล เขาจะยอมทานยา ยอมทำกายภาพบำบัด และยอมกินอาหารมากขึ้น ส่งผลให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วขึ้น

PART 5: Why Payap Health Care? – ทำไมต้องที่นี่? คำตอบสุดท้ายของภาคเหนือ

หากคุณกำลังถามว่า "ทำไมต้องเลือก Payap Health Care?" คำตอบไม่ได้อยู่ที่ราคา แต่อยู่ที่ "ความมั่นใจ" ที่คุณจะได้รับ

5.1 รากฐานที่แข็งแกร่งจาก "แมคคอร์มิค" (The Legacy)

ไม่มีสถาบันไหนในภาคเหนือที่มีรากฐานด้านพยาบาลยาวนานกว่า 100 ปีเท่ากับ คณะพยาบาลศาสตร์แมคคอร์มิค มหาวิทยาลัยพายัพ

  • ความรู้ที่เราใช้สอน คือความรู้ระดับมหาวิทยาลัย

  • มาตรฐานที่เราใช้ตรวจ คือมาตรฐานระดับโรงพยาบาลสากล

  • นี่คือเครื่องหมายการค้า (Trademark) ที่เงินซื้อไม่ได้ แต่ต้องสร้างด้วยเวลาและความศรัทธา

5.2 ระบบนิเวศการเรียนรู้ที่ครบวงจร (Complete Learning Ecosystem)

เราไม่ได้มีแค่ห้องเรียนสี่เหลี่ยม แต่เรามี:

  • Team Trainers: ทีมวิทยากรระดับอาจารย์พยาบาล และพยาบาลวิชาชีพที่มีประสบการณ์ ICU และ Ward ผู้สูงอายุ

  • Facilities: อุปกรณ์การเรียนการสอนที่ทันสมัย เตียงไฟฟ้า หุ่นจำลอง และอุปกรณ์การแพทย์จริง

  • Monitoring System: ระบบติดตามผลหลังส่งตัว มีทีมพยาบาลวิชาชีพ (Case Manager) โทรสอบถามอาการและให้คำปรึกษาตลอดการจ้างงาน

5.3 ความเข้าใจบริบท "คนเหนือ" (Local Insight)

การดูแลคนเชียงใหม่ ต้องเข้าใจวิถีคนเชียงใหม่

  • เรารู้จักวัฒนธรรมการกิน การอยู่ ภาษา และความเชื่อของคนท้องถิ่น

  • ผู้ดูแลของเราสามารถสื่อสารภาษาถิ่น (คำเมือง) ได้ ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการเปิดใจผู้สูงอายุล้านนา

บทสรุป: การลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด คือการลงทุนกับ "คุณภาพชีวิต" ของคนที่คุณรัก

ในวันที่คุณต้องตัดสินใจเลือกใครสักคนเข้ามาดูแลพ่อแม่ หรือคนที่คุณรักที่สุดในชีวิต อย่ามองเพียงแค่ว่า "ใครก็ได้" หรือ "ราคาเท่าไหร่"


แต่จงมองหาคนที่ "ถูกสร้างมาเพื่อดูแล" อย่างแท้จริง


Payap Health Care ไม่ได้ขายแค่บริการจัดหาคน แต่เรามอบ "ความสบายใจ (Peace of Mind)" ให้กับลูกหลาน และมอบ "ศักดิ์ศรีและความสุข (Dignity & Happiness)" คืนให้กับผู้สูงวัย เพราะเราเชื่อมั่นอย่างสุดหัวใจว่า "บุคลากรที่ดี สร้างได้... และเรากำลังสร้างพวกเขาเพื่อคุณ"

📣 ต้องการผู้ดูแลมืออาชีพ หรือสนใจหลักสูตรอบรม?

ติดต่อ Payap Health Care ผู้นำมาตรฐานใหม่แห่งการดูแลสุขภาพภาคเหนือ


 
 
 

ความคิดเห็น


bottom of page