เจาะลึกเบื้องหลัง "Payap Health Care" ผู้นำโมเดลปั้นคนคุณภาพแห่งภาคเหนือ: เมื่อ "การสร้าง" สำคัญกว่า "การส่ง" – บทพิสูจน์มาตรฐานการดูแลผู้สูงอายุที่เหนือกว่าคำว่าธุรกิจ
- SPARK IDEA

- 19 ธ.ค.
- ยาว 3 นาที

ท่ามกลางคลื่นสึนามิแห่ง "สังคมสูงวัยระดับสุดยอด" (Super-Aged Society) ที่กำลังซัดสาดประเทศไทย โดยเฉพาะในภาคเหนือที่เป็นหมุดหมายอันดับหนึ่งของการเกษียณอายุ ธุรกิจหนึ่งที่เติบโตขึ้นราวกับดอกเห็ดหน้าฝนคือ "ธุรกิจจัดส่งผู้ดูแล (Home Care Agency)"
บนหน้ากระดาษโฆษณาและสื่อออนไลน์ เรามักเห็นคำโฆษณาชวนเชื่อมากมาย: "ส่งด่วน ส่งไว ราคาถูก หาคนได้ภายใน 24 ชั่วโมง"... แต่ในความเป็นจริงที่หลายครอบครัวต้องเผชิญ กลับกลายเป็นฝันร้ายที่ซ่อนอยู่ภายใต้คำสัญญาเหล่านั้น พนักงานที่ส่งมาขาดทักษะ, ไม่รู้วิธีพลิกตัวผู้ป่วยจนเกิดแผลกดทับ, ขาดจิตวิทยาในการพูดคุยกับคนแก่, หรือเลวร้ายที่สุดคือการทิ้งงานกลางคัน ปล่อยให้ผู้สูงอายุต้องเผชิญชะตากรรมเพียงลำพัง
คำถามสำคัญที่เกิดขึ้นในใจผู้บริโภคยุคใหม่จึงไม่ใช่แค่ "หาคนได้ไหม?" อีกต่อไป แต่คือ "คนคนนั้น...ถูกสร้างมาอย่างไร?"
ในขณะที่ตลาดส่วนใหญ่มุ่งเน้นการเป็น "พ่อค้าคนกลาง" (Middleman) ที่ทำหน้าที่เพียงหยิบจับคนมาส่งให้ลูกค้าแล้วกินส่วนต่าง ล่าสุดที่จังหวัดเชียงใหม่ ได้เกิดความเคลื่อนไหวที่น่าจับตามอง เมื่อ "Payap Health Care" (พายัพ เฮลธ์ แคร์) ประกาศจุดยืนที่ท้าทายกระแสหลัก ด้วยปรัชญาการทำงานที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง:
"เราไม่ใช่บริษัทจัดส่งพนักงาน แต่เราคือสถาบันสร้างนักดูแลมืออาชีพ... เพราะบุคลากรที่ดี ไม่ได้เกิดจากการ 'ส่งงาน' แต่เกิดจากการ 'สร้าง' อย่างถูกวิธี"
บทความเจาะลึกฉบับนี้ จะพาคุณผู้อ่านไปเปิดประตูรั้วของ Payap Health Care เพื่อสำรวจกระบวนการ "เจียระไนคน" ที่เข้มข้นที่สุดในภาคเหนือ และหาคำตอบว่าทำไมโมเดลนี้ ถึงเป็นทางรอดเดียวที่จะการันตีคุณภาพชีวิตของคนที่คุณรักได้อย่างแท้จริง
PART 1: รื้อระบบเก่า สร้างระบบใหม่ – ทำไมโมเดล "จัดส่งตามสั่ง" ถึงใช้ไม่ได้ผลอีกต่อไป?

1.1 ความล้มเหลวของระบบ "จับแพะชนแกะ"
ในอดีต โมเดลธุรกิจศูนย์ดูแลผู้สูงอายุมักทำงานแบบง่ายๆ คือ รับสมัครคนเข้ามา (โดยแทบไม่มีการตรวจสอบประวัติอาชญากรรมหรือทักษะ) แล้วส่งต่อไปยังบ้านลูกค้าทันทีเมื่อมีความต้องการ ผลลัพธ์คือ "ความเสี่ยง" ตกอยู่ที่ผู้บริโภค 100%
ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย: ผู้ดูแลที่ไม่ผ่านการอบรมอาจทำผู้ป่วยกระดูกหักจากการอุ้มผิดท่า
ความเสี่ยงด้านสุขภาพ: การดูดเสมหะ (Suction) หรือการให้อาหารทางสายยาง (Tube Feeding) ที่ไม่ถูกสุขลักษณะ นำไปสู่การติดเชื้อในกระแสเลือด
ความเสี่ยงด้านจิตใจ: ผู้ดูแลที่ไม่มีความเข้าใจธรรมชาติผู้สูงวัย อาจใช้อารมณ์หรือคำพูดที่ทำร้ายจิตใจ จนผู้ป่วยเกิดภาวะซึมเศร้า
1.2 วิสัยทัศน์ของ Payap Health Care: "From Recruitment to Development"
Payap Health Care มองเห็น Pain Point นี้อย่างทะลุปรุโปร่ง จึงปฏิเสธที่จะเล่นเกมราคาหรือเกมความเร็ว แต่เลือกที่จะเล่น "เกมคุณภาพ" โดยเปลี่ยนนิยามตัวเองจาก "Agency" เป็น "Human Capital Developer in Healthcare" (ผู้พัฒนาทุนมนุษย์ด้านสุขภาพ)
หัวใจสำคัญไม่ได้อยู่ที่ว่าเรามีคนกี่คนในมือ แต่อยู่ที่ว่าคนแต่ละคนในมือนั้น "ผ่านอะไรมาบ้าง" ก่อนที่จะได้รับอนุญาตให้ก้าวเท้าเข้าสู่บ้านของลูกค้า นี่คือที่มาของ Payap Academy
PART 2: Payap Academy – เบ้าหลอมมนุษย์คุณภาพ (The Crucible of Caregivers)

หากจะเปรียบเทียบให้เห็นภาพ Payap Academy ก็เปรียบเสมือน "โรงเรียนเตรียมทหาร" ของวงการผู้ดูแลผู้สูงอายุ ที่นี่ไม่ใช่แค่ที่สอนหนังสือ แต่คือสถานที่ขัดเกลาทั้งร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณ
2.1 ระบบคัดกรองที่เข้มงวดยิ่งกว่าการสอบเข้า (Screening Process)
ก่อนที่จะเริ่มเรียน ผู้สมัครทุกคนต้องผ่านด่านอรหันต์ของการคัดกรอง:
การตรวจสอบประวัติอาชญากรรม: ความปลอดภัยของลูกค้าคือสิ่งสูงสุด
การตรวจสุขภาพจิตและทัศนคติ (Attitude Test): คนเก่งฝึกได้ แต่คนดีต้องมีพื้นฐาน เรามองหาคนที่มี "Service Mind DNA" หรือยีนส์แห่งการให้
การสัมภาษณ์เชิงลึก: เพื่อดูวุฒิภาวะทางอารมณ์ (EQ) ในการรับมือกับแรงกดดัน
2.2 หลักสูตรพื้นฐาน 6 สัปดาห์: ความรู้ที่แน่นปึ้ก (Intensive 6-Week Foundation)
ในขณะที่ที่อื่นอาจอบรม 3 วันแล้วส่งงาน Payap Academy ใช้เวลาถึง 6 สัปดาห์ (1.5 เดือน) ในการปูพื้นฐาน นี่คือความแตกต่างมหาศาล
สัปดาห์ที่ 1-2 กายวิภาคและสรีรวิทยา: เข้าใจร่างกายมนุษย์ ระบบขับถ่าย ระบบทางเดินหายใจ เพื่อให้รู้สาเหตุของอาการผิดปกติต่างๆ
สัปดาห์ที่ 3-4 ทักษะทางการพยาบาล (Nursing Skills): การวัดสัญญาณชีพ, การพลิกตัว, การทำแผล, การดูแลสายสวนปัสสาวะ, และการปฐมพยาบาลเบื้องต้น (CPR)
สัปดาห์ที่ 5 โภชนาการและสุขอนามัย: การเตรียมอาหารปั่นผสม (Blenderized Diet), การคำนวณแคลอรี่, และการรักษาความสะอาด
สัปดาห์ที่ 6 การฝึกปฏิบัติจริง: จำลองสถานการณ์เสมือนจริง (Simulation) กับหุ่นและผู้ป่วยจำลอง
2.3 Professional Refresh Program: ความรู้ไม่มีวันหมดอายุ
โลกการแพทย์เปลี่ยนไปทุกวัน ทักษะก็เช่นกัน Payap Health Care จึงมีระบบ "Re-skill & Up-skill"
สำหรับผู้มีประสบการณ์ที่เข้ามาใหม่ ต้องเข้าคอร์สปรับพื้นฐานให้เป็นมาตรฐานเดียวกัน
พนักงานปัจจุบันต้องกลับมาอบรมซ้ำทุก 6 เดือน เพื่อทบทวนเทคนิคใหม่ๆ และแก้ไขจุดบกพร่องที่พบจากการทำงานจริง
2.4 Ethics & Safety Protocol: จรรยาบรรณคือเกราะป้องกัน
สิ่งที่สอนยากที่สุดคือ "จริยธรรม" หลักสูตรนี้เน้นย้ำเรื่อง:
Patient Privacy: การรักษาความลับของผู้ป่วย ไม่ถ่ายรูปหรือโพสต์ลงโซเชียลมีเดีย
Safety First: โปรโตคอลความปลอดภัยในบ้าน การป้องกันไฟไหม้ และการจัดการเมื่อเกิดอุบัติเหตุ
2.5 ระบบ Badges และการประเมินผล: การันตีด้วยคุณภาพ
ไม่ใช่แค่เรียนจบแล้วจบกัน แต่มีการสอบภาคปฏิบัติที่เข้มข้น ผู้ที่ผ่านจะได้รับ "Badge" หรือตราสัญลักษณ์รับรองความสามารถเฉพาะด้าน เช่น Badge การดูดเสมหะ, Badge การดูแลผู้ป่วยอัลไซเมอร์, Badge กายภาพบำบัดเบื้องต้น ทำให้ลูกค้ามั่นใจได้ว่า คนที่ส่งไปมีความเชี่ยวชาญตรงกับโรคที่เป็น
PART 3: Humanized Care – สร้างด้วยหัวใจ...ให้มากกว่าทักษะ (The Heart of Care)
ทักษะทำให้ผู้ป่วย "รอด" แต่หัวใจทำให้ผู้ป่วย "สุข" นี่คือปรัชญา Humanized Care (การดูแลด้วยหัวใจความเป็นมนุษย์) ที่ Payap Health Care ได้รับการถ่ายทอด DNA มาจาก คณะพยาบาลศาสตร์แมคคอร์มิค โดยตรง
3.1 ความละเอียดอ่อนที่ AI ทำแทนไม่ได้
ในยุคที่เทคโนโลยีเข้ามามีบทบาท หุ่นยนต์อาจช่วยยกของได้ แต่หุ่นยนต์ไม่สามารถ:
จับมือให้กำลังใจ ในวันที่ผู้ป่วยท้อแท้
สังเกตแววตา ที่บ่งบอกความเจ็บปวดที่พูดไม่ออก
รับฟังเรื่องเล่าความหลัง ของผู้สูงอายุด้วยความสนใจจริงใจ
3.2 หลักสูตรจิตวิทยาผู้สูงวัยและการสื่อสาร
Payap Academy ให้ความสำคัญมากกับการสอนเรื่อง "Empathy" (ความเข้าอกเข้าใจ)
การสื่อสารอย่างอ่อนโยน: สอนเทคนิคการพูดกับผู้ป่วยสมองเสื่อม การใช้โทนเสียง และภาษาหน้าตา (Non-verbal communication)
การจัดการอารมณ์: ผู้ดูแลต้องเป็น "ถังขยะอารมณ์" ที่แข็งแกร่ง รองรับความหงุดหงิดของผู้ป่วยได้โดยไม่ตอบโต้ และรู้วิธีเปลี่ยนบรรยากาศตึงเครียดให้ผ่อนคลาย
"ผู้สูงอายุไม่ได้ต้องการแค่คนช่วยพยุงเดิน แต่ต้องการเพื่อนคู่คิด ต้องการคนที่ทำให้เขารู้สึกว่าเขายังมีคุณค่าและศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์หลงเหลืออยู่"
PART 4: Real Impact – เมื่อ "คนคุณภาพ" สร้าง "ชีวิตคุณภาพ"

คำว่า "คุณภาพ" วัดผลได้หรือไม่? ที่ Payap Health Care เราวัดผลความสำเร็จจาก Better Quality of Life Indicators ของผู้ป่วย
4.1 ลดความเสี่ยงทางกาย (Physical Safety Impact)
เมื่อบุคลากรผ่านการฝึกฝนมาอย่างดี สถิติอุบัติเหตุจะลดลงอย่างมีนัยสำคัญ:
ลดความเสี่ยงการหกล้ม (Fall Prevention): ผู้ดูแลรู้วิธีประเมินความเสี่ยงในบ้าน จัดสภาพแวดล้อม และรู้วิธีประคองที่ถูกต้อง
ลดแผลกดทับ (Bedsores Reduction): ด้วยวินัยในการพลิกตัวทุก 2 ชั่วโมง และเทคนิคการนวดกระตุ้นไหลเวียนเลือด แผลกดทับที่เคยเป็นฝันร้ายของผู้ป่วยติดเตียงจะลดลงหรือหายไป
ลดอัตราการกลับเข้าโรงพยาบาล (Re-admission Rate): การสังเกตอาการที่แม่นยำ (เช่น สีของปัสสาวะ, ความข้นของเสมหะ) ทำให้รู้สัญญาณเตือนล่วงหน้าและรักษาได้ทันท่วงที ก่อนที่อาการจะทรุดหนัก
4.2 ฟื้นฟูสภาพจิตใจ (Mental Health Impact)
ลดภาวะซึมเศร้า: การมีเพื่อนคุยที่เข้าใจ และกิจกรรมบำบัดเล็กๆ น้อยๆ ระหว่างวัน ช่วยกระตุ้นสมองและจิตใจ
เพิ่มความร่วมมือในการรักษา: เมื่อผู้ป่วย "ไว้ใจ" และ "รัก" ผู้ดูแล เขาจะยอมทานยา ยอมทำกายภาพบำบัด และยอมกินอาหารมากขึ้น ส่งผลให้ร่างกายฟื้นตัวเร็วขึ้น
PART 5: Why Payap Health Care? – ทำไมต้องที่นี่? คำตอบสุดท้ายของภาคเหนือ
หากคุณกำลังถามว่า "ทำไมต้องเลือก Payap Health Care?" คำตอบไม่ได้อยู่ที่ราคา แต่อยู่ที่ "ความมั่นใจ" ที่คุณจะได้รับ
5.1 รากฐานที่แข็งแกร่งจาก "แมคคอร์มิค" (The Legacy)
ไม่มีสถาบันไหนในภาคเหนือที่มีรากฐานด้านพยาบาลยาวนานกว่า 100 ปีเท่ากับ คณะพยาบาลศาสตร์แมคคอร์มิค มหาวิทยาลัยพายัพ
ความรู้ที่เราใช้สอน คือความรู้ระดับมหาวิทยาลัย
มาตรฐานที่เราใช้ตรวจ คือมาตรฐานระดับโรงพยาบาลสากล
นี่คือเครื่องหมายการค้า (Trademark) ที่เงินซื้อไม่ได้ แต่ต้องสร้างด้วยเวลาและความศรัทธา
5.2 ระบบนิเวศการเรียนรู้ที่ครบวงจร (Complete Learning Ecosystem)
เราไม่ได้มีแค่ห้องเรียนสี่เหลี่ยม แต่เรามี:
Team Trainers: ทีมวิทยากรระดับอาจารย์พยาบาล และพยาบาลวิชาชีพที่มีประสบการณ์ ICU และ Ward ผู้สูงอายุ
Facilities: อุปกรณ์การเรียนการสอนที่ทันสมัย เตียงไฟฟ้า หุ่นจำลอง และอุปกรณ์การแพทย์จริง
Monitoring System: ระบบติดตามผลหลังส่งตัว มีทีมพยาบาลวิชาชีพ (Case Manager) โทรสอบถามอาการและให้คำปรึกษาตลอดการจ้างงาน
5.3 ความเข้าใจบริบท "คนเหนือ" (Local Insight)
การดูแลคนเชียงใหม่ ต้องเข้าใจวิถีคนเชียงใหม่
เรารู้จักวัฒนธรรมการกิน การอยู่ ภาษา และความเชื่อของคนท้องถิ่น
ผู้ดูแลของเราสามารถสื่อสารภาษาถิ่น (คำเมือง) ได้ ซึ่งเป็นกุญแจสำคัญในการเปิดใจผู้สูงอายุล้านนา
บทสรุป: การลงทุนที่คุ้มค่าที่สุด คือการลงทุนกับ "คุณภาพชีวิต" ของคนที่คุณรัก
ในวันที่คุณต้องตัดสินใจเลือกใครสักคนเข้ามาดูแลพ่อแม่ หรือคนที่คุณรักที่สุดในชีวิต อย่ามองเพียงแค่ว่า "ใครก็ได้" หรือ "ราคาเท่าไหร่"
แต่จงมองหาคนที่ "ถูกสร้างมาเพื่อดูแล" อย่างแท้จริง
Payap Health Care ไม่ได้ขายแค่บริการจัดหาคน แต่เรามอบ "ความสบายใจ (Peace of Mind)" ให้กับลูกหลาน และมอบ "ศักดิ์ศรีและความสุข (Dignity & Happiness)" คืนให้กับผู้สูงวัย เพราะเราเชื่อมั่นอย่างสุดหัวใจว่า "บุคลากรที่ดี สร้างได้... และเรากำลังสร้างพวกเขาเพื่อคุณ"
📣 ต้องการผู้ดูแลมืออาชีพ หรือสนใจหลักสูตรอบรม?
ติดต่อ Payap Health Care ผู้นำมาตรฐานใหม่แห่งการดูแลสุขภาพภาคเหนือ
โทร: 098-336-1315
Line OA: @phc.admin




ความคิดเห็น